แอร์ควรล้างบ่อยแค่ไหนถึงจะไม่เกิดผลเสียต่อสุขภาพ

แอร์เป็นสิ่งที่ช่วยให้บ้านและสำนักงานเย็นสบาย โดยเฉพาะในยุคที่อากาศร้อนชื้น แต่แอร์ที่ไม่ถูกล้างหรือบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละออง เชื้อรา และเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ การล้างแอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม แต่หลายคนอาจสงสัยว่า ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหนถึงจะเพียงพอในการรักษาความสะอาดและป้องกันปัญหาสุขภาพ

เมื่อแอร์ถูกใช้งานไปนานๆ ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกจะสะสมอยู่ในแผ่นกรองอากาศและภายในตัวเครื่อง หากไม่มีการล้างบ่อยครั้ง อากาศที่ออกมาจากแอร์จะไม่สะอาดและอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อน ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของผู้อยู่อาศัย การล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอจึงมีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพและทำให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แอร์ควรล้างบ่อยแค่ไหน?

1. ล้างแผ่นกรองอากาศทุก 1-2 เดือน

แผ่นกรองอากาศในแอร์จะสะสมฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกได้มากที่สุด ควรล้างแผ่นกรองอากาศทุก 1-2 เดือนเพื่อให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น และช่วยให้การไหลเวียนอากาศดีขึ้น

2. ล้างระบบภายในแอร์ปีละ 1-2 ครั้ง

ส่วนประกอบภายในแอร์ เช่น คอยล์เย็น ควรล้างปีละ 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากเปิดแอร์เป็นประจำ ควรล้างบ่อยครั้งขึ้นเพื่อลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค และช่วยให้แอร์ทำงานได้มีประสิทธิภาพ

3. ล้างแอร์บ่อยขึ้นหากใช้งานในพื้นที่ที่มีฝุ่นมาก

สำหรับบ้านที่อยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นละอองมาก เช่น ใกล้ถนน หรือในอาคารที่มีการซ่อมแซม ควรพิจารณาล้างแอร์บ่อยขึ้น เพราะฝุ่นจะสะสมได้รวดเร็วกว่าปกติ

ผลเสียที่เกิดจากการไม่ล้างแอร์

1. อากาศในห้องสกปรก

หากไม่ล้างแอร์บ่อยครั้ง อากาศที่ออกมาจากแอร์จะมีฝุ่นละอองและเชื้อโรคปนเปื้อน อาจส่งผลให้เกิดโรคภูมิแพ้และปัญหาระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด หรือการติดเชื้อทางเดินหายใจ

2. แอร์ทำงานหนักและกินไฟมากขึ้น

การไม่ล้างแอร์ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เพราะฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่สะสมจะขัดขวางการไหลเวียนของอากาศ ส่งผลให้แอร์กินไฟมากขึ้นและประสิทธิภาพในการทำความเย็นลดลง

3. เสี่ยงต่อการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย

แอร์ที่ไม่ถูกล้างจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งสามารถก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และทำให้เกิดโรคภูมิแพ้

วิธีการล้างแอร์

1. ล้างแผ่นกรองอากาศด้วยน้ำเปล่า

แผ่นกรองอากาศควรถูกถอดออกมาล้างด้วยน้ำเปล่า ใช้แปรงอ่อนๆ ขัดเบาๆ เพื่อขจัดฝุ่นที่สะสมอยู่ จากนั้นผึ่งให้แห้งก่อนใส่กลับเข้าไป

2. เรียกช่างแอร์เพื่อทำความสะอาดระบบภายใน

การล้างคอยล์เย็นหรือคอยล์ร้อนในแอร์จำเป็นต้องมีช่างผู้เชี่ยวชาญมาดูแล เพราะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและอาจต้องใช้เครื่องมือพิเศษ

สรุปเรื่องการล้างแอร์

การล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอไม่เพียงแต่ช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยรักษาสุขภาพของผู้อยู่อาศัยในบ้านหรือสำนักงานอีกด้วย ควรล้างแอร์อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง และล้างแผ่นกรองอากาศทุก 1-2 เดือนเพื่อให้การไหลเวียนอากาศสะอาดและสดชื่นอยู่เสมอ