SungLassesAustralia.biz

ความรู้ที่น่าสนใจในยุคไอที และการทำการตลาดออนไลน์

5 จุดเด่นของ RFID Reader ที่ระบบคลังสินค้าไม่ควรมองข้าม

5 จุดเด่นของ RFID Reader ที่ระบบคลังสินค้าไม่ควรมองข้าม

การบริหารคลังสินค้าในยุคนี้ ไม่ได้ใช้แค่แรงงานคนกับ การจดบันทึกด้วยมืออีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้น ความซับซ้อนของข้อมูลก็มากขึ้นตามไปด้วย การทำงานแบบเดิมจึงอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป หลายคลังสินค้าเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีอย่าง RFID กันมากขึ้น โดยเฉพาะ RFID Reader ที่กลายเป็นหัวใจหลักของระบบติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ 

ทำความรู้จักกับจุดเด่นของ RFID Reader ที่ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ และเพราะอะไรระบบคลังสินค้าถึงไม่ควรมองข้ามเครื่องมือนี้

ทำความรู้จักกับ RFIDแบบง่าย ๆ

RFID ย่อมาจาก Radio Frequency Identification คือเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุในการระบุตัวตนของวัตถุหรือสินค้า โดยมีส่วนประกอบหลักคือ แท็ก (Tag) ที่ติดอยู่กับสินค้า

RFID Reader ที่ทำหน้าที่อ่านข้อมูลจากแท็กเหล่านั้นแบบไร้สาย ไม่ต้องใช้สายตาหรือการสัมผัสเหมือนบาร์โค้ด

RFID Reader wearhouse

RFID Reader มีจุดเด่นอะไรบ้าง? 

1. อ่านข้อมูลได้เร็วแบบเรียลไทม์

ถ้าใครเคยสแกนบาร์โค้ดทีละชิ้นจะรู้เลยว่ามันเสียเวลาแค่ไหน โดยเฉพาะถ้าต้องจัดการกับสินค้านับพัน RFID Reader ช่วยให้การอ่านข้อมูลเป็นแบบเรียลไทม์ ไม่ต้องเล็ง ไม่ต้องแตะ ขอแค่แท็กอยู่ในระยะสัญญาณ ก็อ่านข้อมูลได้ทันที เช่น

อ่านข้อมูลได้เร็วแบบเรียลไทม์

  • ไม่ต้องสแกนทีละชิ้น
  • ไม่ต้องเล็ง ไม่ต้องแตะ
  • อัปเดตข้อมูลทันที

อ่านได้โดยไม่ต้องมองเห็น (Non-Line-of-Sight)

  • RFID สามารถอ่านข้อมูลได้แม้แท็กจะถูกบังด้วยวัตถุอื่น หรืออยู่ในบรรจุภัณฑ์ปิดทึบ ซึ่งบาร์โค้ดไม่สามารถทำได้

อ่านได้จากระยะไกล

  • ขึ้นอยู่กับประเภทของแท็กและเครื่องอ่าน RFID สามารถอ่านข้อมูลได้จากระยะห่างหลายเมตร ทำให้การตรวจนับหรือติดตามสินค้ายิ่งสะดวกและรวดเร็วขึ้น

เก็บข้อมูลได้มากกว่า

  • แท็ก RFID สามารถบรรจุข้อมูลได้มากกว่าบาร์โค้ด ทำให้สามารถบันทึกรายละเอียดสินค้า วันหมดอายุ หรือข้อมูลเฉพาะอื่นๆ ได้อย่างครบถ้วน

2. ลดข้อผิดพลาดจากคนทำงาน

บางครั้งคนเราก็พลาดได้ค่ะ เช่น อ่านเลขผิด บันทึกผิด แต่ RFID Reader จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้ดี เพราะระบบสามารถอ่านข้อมูลได้อัตโนมัติ ทำให้ข้อมูลมีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น  เช่น

ลดการป้อนข้อมูลด้วยมือ

  • ลดโอกาสการ อ่านเลขผิด หรือ บันทึกข้อมูลผิดพลาด ที่เกิดจากการคีย์ข้อมูลด้วยมือ
  • กระบวนการเป็น อัตโนมัติ มากขึ้น ตั้งแต่การรับสินค้า การนับสต็อก ไปจนถึงการจัดส่ง

ข้อมูลถูกต้องแม่นยำสูง

  • RFID Reader อ่านข้อมูลจากแท็กโดยตรง ทำให้ข้อมูลที่เข้าระบบมีความ ถูกต้องและแม่นยำสูง
  • ลดความจำเป็นในการตรวจสอบซ้ำหลายครั้ง ซึ่งประหยัดเวลาและแรงงาน

ลดความเหนื่อยล้าของพนักงาน

  • การทำงานที่รวดเร็วและเป็นอัตโนมัติช่วย ลดภาระงาน และความเหนื่อยล้าของพนักงาน ทำให้มีสมาธิกับงานที่ซับซ้อนมากขึ้น

การตรวจสอบที่รวดเร็ว

  • เมื่อเกิดข้อผิดพลาด ระบบ RFID สามารถช่วยให้ ตรวจสอบย้อนกลับ และหาต้นตอของปัญหาได้รวดเร็วกว่าการบันทึกด้วยมือ
RFID Read data through obstacles

3. ทำงานได้แบบไม่ต้องเห็นตัวสินค้าโดยตรง

สามารถอ่านแท็กได้แม้ของจะอยู่ในกล่อง อยู่บนพาเลท หรือในลังที่ปิดอยู่ ไม่จำเป็นต้องหยิบของออกมาให้เห็นเหมือนตอนสแกนบาร์โค้ด แบบนี้ช่วยประหยัดทั้งเวลาและแรงงานไปได้เยอะเลยค่ะ เหมาะกับงานที่มีการเก็บสินค้าหลายชั้น หรือมีการขนย้ายอยู่บ่อย ๆ เช่น

อ่านข้อมูลผ่านสิ่งกีดขวาง

  • แท็ก RFID สามารถส่งข้อมูลผ่านกล่อง, พาเลท, ลัง หรือบรรจุภัณฑ์ที่ปิดอยู่ได้
  • ไม่จำเป็นต้องแกะกล่องบรรจุ หรือหยิบสินค้าออกมาวางเรียงเพื่อสแกนทีละชิ้นเหมือนบาร์โค้ด

ประหยัดเวลาและแรงงานอย่างมหาศาล

  • ลดขั้นตอนการจัดการสินค้าที่ซับซ้อน ทำให้การตรวจนับหรือตรวจสอบทำได้รวดเร็วขึ้นมาก
  • เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคลังสินค้าที่มีการเก็บสินค้าหลายชั้น หรือมีการขนย้ายบ่อยๆ

เพิ่มความรวดเร็วในการจัดการสินค้า

  • ช่วยให้การรับเข้า-ส่งออกสินค้าทำได้เร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาตรวจสอบด้วยตาเปล่าทุกชิ้น
  • ลดความแออัดบริเวณจุดรับ-ส่งสินค้าในคลัง

4. รองรับการอ่านหลายรายการพร้อมกัน

RFID Reader สามารถอ่านแท็กได้หลายสิบหรือแม้กระทั่งเป็นร้อยแท็กในเวลาเดียวกัน ไม่ต้องไล่ทีละชิ้นเหมือนบาร์โค้ดเลยค่ะ จุดนี้ทำให้การตรวจนับสต็อกเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาก และยังลดเวลาในการปิดรอบสต็อกได้อีกด้วย เช่น

อ่านได้รวดเร็วจำนวนมาก

  • RFID Reader สามารถอ่านแท็กได้พร้อมกันทีละ หลายสิบไปจนถึงหลายร้อยรายการ ในเวลาเดียวกัน
  • แตกต่างจากการสแกนบาร์โค้ดที่ต้องทำทีละชิ้น ลดเวลาที่เสียไปกับการไล่สแกนทีละรายการ

เปลี่ยนการตรวจนับสต็อกให้ง่ายขึ้น

  • ทำให้กระบวนการ ตรวจนับสต็อกสินค้า ที่เคยยุ่งยากกลายเป็นเรื่องง่ายและใช้เวลาน้อยลงอย่างมาก
  • ช่วย ลดเวลาในการปิดรอบสต็อก และทำให้ข้อมูลคงคลังเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

เพิ่มความรวดเร็วในกระบวนการ

  • เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคลังสินค้าที่มีการเคลื่อนย้ายสินค้าจำนวนมาก เช่น การรับเข้า การเบิกออก หรือการย้ายที่จัดเก็บ

5. ต่อยอดสู่ระบบอัตโนมัติและวิเคราะห์ข้อมูลได้หลากหลาย

RFID Reader ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมืออ่านแท็ก แต่ยังเชื่อมต่อกับระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) ได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ยังช่วยให้วิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เช่น ระยะเวลาการเก็บ การเคลื่อนไหวของสินค้า หรือสินค้าคงคลังแบบละเอียดได้อีกด้วย เช่น

เชื่อมต่อกับระบบคลังสินค้า (WMS) อย่างไร้รอยต่อ

  • RFID Reader สามารถส่งข้อมูลที่อ่านได้เข้าสู่ระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) ได้
  • ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน ช่วยให้การบริหารจัดการสต็อก การรับ-จ่าย และการจัดเรียงสินค้าเป็นไปอย่างแม่นยำ

ต่อยอดสู่ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

  • ข้อมูลจาก RFID เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนระบบอัตโนมัติอื่นๆ ในคลังสินค้า เช่น หุ่นยนต์ขนส่ง (AGV) หรือระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายอัตโนมัติ (AS/RS)
  • ช่วยลดการพึ่งพาแรงงานคนในงานซ้ำๆ และเพิ่มความเร็วในการดำเนินงาน

วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อการตัดสินใจที่ดีขึ้น

  • RFID ช่วยให้คุณรวบรวมข้อมูลได้ละเอียดและหลากหลายขึ้น เช่น ระยะเวลาการเก็บสินค้า ในแต่ละโซน, รูปแบบการเคลื่อนไหว ของสินค้า, หรือ ข้อมูลสินค้าคงคลังแบบละเอียด (เช่น จำนวน, วันที่รับเข้า, แหล่งที่มา)
  • ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อหาจุดปรับปรุงกระบวนการ, วางแผนการจัดซื้อ, หรือเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ในคลังสินค้า

มองเห็นภาพรวมธุรกิจได้ชัดเจน

  • การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันจากการทำงานร่วมกับ RFID ช่วยให้ผู้บริหารสามารถมองเห็นภาพรวมของคลังสินค้าและซัพพลายเชนได้ชัดเจนขึ้น

RFID Reader ไม่ใช่แค่อุปกรณ์เสริมในระบบคลังสินค้า แต่เป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดข้อผิดพลาด ประหยัดเวลา และต่อยอดไปสู่การวางระบบคลังสินค้าแบบอัจฉริยะได้ในอนาคต 

หากกำลังวางแผนปรับปรุงหรือขยายระบบคลังสินค้า การเริ่มต้นด้วย RFID Reader อาจเป็นก้าวแรกที่คุ้มค่ากว่าที่คิดก็ได้นะคะ