แร่ Rare Earth หรือธาตุหายาก เป็นชุดของธาตุโลหะ 17 ตัวที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ความสามารถในการเหนี่ยวนำแม่เหล็ก การนำไฟฟ้า และการเรืองแสง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น แม่เหล็กถาวร มอเตอร์ไฟฟ้า เซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลากหลายชนิด
จนถึงปัจจุบัน จีนถือครองส่วนแบ่งการแปรรูปและการผลิตแรร์เอิร์ธในโลกอย่างท่วมท้น และเพื่อคงความได้เปรียบทางอุตสาหกรรม จีนจึงเริ่มดำเนินนโยบายควบคุมการส่งออกแรร์เอิร์ธบางชนิด รวมทั้งเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมทั่วโลก
แร่ Rare Earth ที่ถูกควบคุมการส่งออก
ล่าสุด จีนได้เพิ่มธาตุแรร์เอิร์ธหลายตัวเข้าไปในรายการควบคุมการส่งออก เช่น Holmium, Erbium, Thulium, Europium และ Ytterbium ซึ่งเป็นธาตุกลุ่มกลางถึงหนัก (medium- to heavy-RE) ที่ใช้ในงานแม่เหล็กขั้นสูง การสื่อสาร ความเรืองแสง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง
นอกจากนี้ จีนได้ควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการสกัด แปรรูป แม่เหล็กและรีไซเคิลแรร์เอิร์ธ ซึ่งหมายถึงบริษัทต่างประเทศที่ต้องการใช้แรร์เอิร์ธหรืออุปกรณ์ที่มีส่วนประกอบจากแร่เหล่านี้อาจต้องได้รับใบอนุญาตพิเศษ
เหตุผลที่จีนควบคุมส่งออกแรร์เอิร์ธ
จีนยกประเด็นเรื่องความมั่นคงของชาติและเทคโนโลยีล้ำสมัยเป็นเหตุผลหลักในการควบคุมนโยบายนี้ โดยให้เหตุผลว่าแรร์เอิร์ธและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมีคุณสมบัติ “ใช้งานได้ทั้งทางพลเรือนและทางการทหาร (dual‑use)” ซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในระบบอาวุธหรืออุปกรณ์ทางยุทธศาสตร์หากไม่มีการควบคุม
นอกจากนั้น จีนยังต้องการรักษาความได้เปรียบทางเทคโนโลยีในระดับโลก โดยไม่ให้ประเทศอื่นๆ เข้าถึงส่วนประกอบหลักที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมไฮเทคได้ง่าย
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี
เมื่อจีนจำกัดส่งออกแร่แบบเฉพาะ แผนการผลิตของบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกอาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น
- ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น เพราะแรร์เอิร์ธที่ถูกควบคุมมีน้อยลงในตลาดโลก
- ขาดแคลนในส่วนประกอบสำคัญ เช่น แม่เหล็กถาวร ที่ใช้ในมอเตอร์ไฟฟ้า ซีรีส์รถยนต์ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- บริษัทอาจต้องพึ่งแหล่งสำรองจากประเทศอื่นซึ่งอาจมีต้นทุนสูงหรือคุณภาพต่ำกว่า
- การพัฒนาโซลูชันรีไซเคิลและวงจรทดแทนแรร์เอิร์ธภายในประเทศจะกลายเป็นทางเลือกที่สำคัญ
ความสำคัญของแรร์เอิร์ธในอุตสาหกรรมไทย
แม้ประเทศไทยจะไม่ใช่ผู้ผลิตแรร์เอิร์ธรายใหญ่ แต่ในยุคที่โลกมุ่งสู่เทคโนโลยีสีเขียวและอุปกรณ์ไอทีมากขึ้น ความรู้เรื่องแรร์เอิร์ธมีความสำคัญมากขึ้น เช่น
- สำหรับธุรกิจที่ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนแม่เหล็ก หรือเซนเซอร์
- สำหรับงานวิจัยและพัฒนาวัสดุที่ใช้แรร์เอิร์ธเป็นส่วนประกอบ
- สำหรับนโยบายของภาครัฐ ที่ต้องเตรียมแผนรองรับการนำเข้า และสร้างความสามารถภายใน
ถ้าประเทศไทยสามารถพัฒนาสายแปรรูปแรร์เอิร์ธหรือใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลได้สำเร็จ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่เกิดจากการพึ่งพิงแหล่งส่งออกจากต่างประเทศ
สิ่งที่ควรจับตาในอนาคต
- การที่จีนอาจขยายควบคุมแร่เพิ่มเติม หรือเพิ่มความเข้มข้นในการอนุมัติใบส่งออก
- การขยายหรือกระตุ้นการลงทุนในประเทศที่มีแรร์เอิร์ธสำรอง เช่น ออสเตรเลีย อินเดีย
- เทคโนโลยีรีไซเคิลแรร์เอิร์ธหรือวัสดุทางเลือก (substitute materials) จะได้รับความสนใจมากขึ้น
- แนวโน้มห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีโลก ที่อาจเคลื่อนย้ายจากจีนไปหลากหลายประเทศมากขึ้น
สรุป
แร่ Rare Earth ที่จีนห้ามส่งออก เป็นธาตุที่มีการใช้งานสูงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง จีนซึ่งเป็นผู้ควบคุมการแปรรูปหลัก จึงใช้มาตรการควบคุมส่งออกเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางเทคโนโลยีและความมั่นคงของชาติ ผลกระทบจึงสามารถสะเทือนทั้งอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ทางยุทธศาสตร์ สำหรับไทย แม้เราไม่ใช่ผู้ผลิตหลัก แต่การเรียนรู้และเตรียมกลยุทธ์ด้านแหล่งวัตถุดิบ เทคโนโลยีแปรรูป และรีไซเคิลจะมีบทบาทสำคัญต่อการพึ่งตนเองในระยะยาว.