การทำ SEO (Search Engine Optimization) เป็นกระบวนการที่สำคัญในการปรับปรุงการมองเห็นและอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google อย่างไรก็ตาม การทำ SEO ที่ผิดกฎหมาย หรือที่มักถูกเรียกกันว่า “SEO สายดำ” (Black Hat SEO) อาจส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ของคุณในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเว็บไซต์ของคุณถูกลงโทษจาก Google ซึ่งอาจส่งผลให้เว็บไซต์สูญเสียอันดับในผลการค้นหา และในบางกรณีอาจถูกถอดออกจากดัชนีการค้นหาของ Google ไปเลยก็ได้
ในบทความนี้เราจะพูดถึงวิธีการที่สามารถใช้ในการแก้ไขปัญหาของเว็บไซต์ที่โดนลงโทษจากการทำ SEO ที่ผิดกฎหมาย โดยเน้นหลักการ E-E-A-T (Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) ซึ่งเป็นเกณฑ์สำคัญที่ Google ใช้ในการประเมินความน่าเชื่อถือและคุณภาพของเว็บไซต์
1. การเข้าใจการลงโทษจาก Google
ก่อนที่เราจะพูดถึงวิธีการแก้ไขปัญหาจากการทำ SEO ที่ผิดกฎหมาย สิ่งแรกที่เราต้องทำคือเข้าใจถึงการลงโทษที่ Google ใช้ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก
- Manual Penalty (การลงโทษจากทีมงาน Google) การลงโทษประเภทนี้จะเกิดขึ้นเมื่อทีมงานของ Google ตรวจพบการกระทำที่ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ของ Google โดยตรง เช่น การใช้คำหลักซ้ำ ๆ อย่างไม่ธรรมชาติ หรือการใช้วิธีการสร้าง Backlink ที่ไม่เหมาะสม การลงโทษนี้มักจะส่งผลต่ออันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google
- Algorithmic Penalty (การลงโทษจากอัลกอริธึม) Google ใช้อัลกอริธึมหลายตัวในการตรวจจับเว็บไซต์ที่ใช้เทคนิค SEO ที่ผิดกฎหมาย เช่น การใช้ Panda และ Penguin ที่เน้นการลงโทษเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคุณภาพต่ำหรือใช้เทคนิคสร้างลิงก์ที่ไม่เหมาะสม
การที่เว็บไซต์โดนลงโทษไม่เพียงแต่ทำให้สูญเสียอันดับในผลการค้นหาของ Google แต่ยังสามารถส่งผลเสียในระยะยาวต่อความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจจากผู้ใช้งาน
2. การตรวจสอบสาเหตุของการลงโทษ
ขั้นตอนแรกในการแก้ไขปัญหาของเว็บไซต์ที่โดนลงโทษคือการตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณโดนลงโทษด้วยเหตุผลอะไร การตรวจสอบนี้สามารถทำได้โดย
- ใช้ Google Search Console ถ้าคุณได้รับการลงโทษจากการตรวจสอบด้วยมือ (manual penalty) คุณจะได้รับการแจ้งเตือนจาก Google ผ่าน Google Search Console ซึ่งจะบอกว่าคุณได้รับการลงโทษจากเหตุผลใด ตัวอย่างเช่น การสร้างลิงก์ที่ไม่เหมาะสม หรือการใช้เทคนิค SEO ที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ Google
- ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงอันดับ หากเว็บไซต์ของคุณมีการเปลี่ยนแปลงอันดับอย่างมีนัยสำคัญในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ คุณอาจต้องการตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง การลงโทษจากอัลกอริธึมอาจเกิดขึ้นในช่วงการอัปเดตของ Google Core Update หรืออัปเดตของอัลกอริธึมอื่น ๆ
3. การลบลิงก์ที่ผิดกฎหมาย
หนึ่งในปัญหาหลักที่เว็บไซต์มักพบเจอจากการทำ SEO ที่ผิดกฎหมายคือการสร้างลิงก์ย้อนกลับ (Backlinks) ที่ไม่เป็นธรรมชาติหรือไม่เหมาะสม เช่น การใช้บริการการสร้างลิงก์ที่มีคุณภาพต่ำ การแลกเปลี่ยนลิงก์กับเว็บไซต์ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ หรือการซื้อลิงก์จากแหล่งที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจทำให้ Google ลงโทษเว็บไซต์
การแก้ไขปัญหานี้คือการลบลิงก์ที่ไม่เป็นธรรมชาติทั้งหมด โดยการทำตามขั้นตอนดังนี้
- ใช้ Google Disavow Tool หากคุณไม่สามารถติดต่อเจ้าของเว็บไซต์ที่มีลิงก์ที่ไม่ดีเพื่อลบลิงก์ได้ คุณสามารถใช้เครื่องมือ Disavow Links ของ Google เพื่อบอกให้ Google ไม่พิจารณาลิงก์เหล่านั้นในกระบวนการจัดอันดับ
- ตรวจสอบลิงก์ย้อนกลับ (Backlink Audit) การทำการตรวจสอบลิงก์ย้อนกลับจะช่วยให้คุณสามารถระบุลิงก์ที่มีความเสี่ยงและต้องการการปรับปรุงได้ การใช้เครื่องมือเช่น Ahrefs หรือ SEMrush สามารถช่วยให้คุณตรวจสอบลิงก์ที่เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของคุณได้
4. การปรับปรุงเนื้อหาภายในเว็บไซต์
หลังจากที่คุณจัดการกับลิงก์ที่ไม่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการตรวจสอบและปรับปรุงเนื้อหาภายในเว็บไซต์ให้มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานของ Google การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงไม่เพียงแต่จะช่วยให้เว็บไซต์กลับมามีอันดับที่ดีขึ้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness) และความเชี่ยวชาญ (Expertise) ให้กับเว็บไซต์ของคุณ
เนื้อหาของเว็บไซต์ควร:
- มีข้อมูลที่ถูกต้องและมีคุณค่า คอนเทนต์ควรให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานและตอบโจทย์คำถามที่ผู้ใช้ค้นหาบ่อย ๆ
- เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ (Authoritativeness) คุณควรให้ผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องเป็นผู้เขียนเนื้อหาหรือให้คำแนะนำในการเขียน
- มีการอัปเดตข้อมูล เนื้อหาที่ล้าสมัยหรือไม่ถูกต้องอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณสูญเสียความน่าเชื่อถือและอันดับในผลการค้นหา
5. การขอรับการทบทวนจาก Google
เมื่อคุณได้แก้ไขปัญหาหรือปรับปรุงเว็บไซต์แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการขอให้ Google ทบทวนการลงโทษที่เกิดขึ้น คุณสามารถขอให้ Google พิจารณาเว็บไซต์ของคุณใหม่ผ่าน Google Search Console โดยการส่งคำขอการทบทวน (Reconsideration Request) ซึ่งจะต้องอธิบายว่าเว็บไซต์ของคุณได้ทำการปรับปรุงอย่างไรบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของ Google
คำขอการทบทวนนี้ต้องมีความละเอียดและซื่อสัตย์ โดยต้องอธิบายถึงการแก้ไขที่เกิดขึ้นและแสดงให้ Google เห็นว่าเว็บไซต์ของคุณตอนนี้ไม่มีการกระทำที่ผิดกฎหมายอีกต่อไป
6. การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ Google
สุดท้าย การทำ SEO อย่างมีจริยธรรมและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ Google คือวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้เว็บไซต์โดนลงโทษในอนาคต หากคุณทำ SEO ตามหลักเกณฑ์ของ Google โดยการ
- ทำการศึกษา SEO และอัปเดตข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
- ไม่ใช้เทคนิคที่ไม่เป็นธรรมชาติในการสร้างลิงก์หรือเพิ่มอันดับ
- มุ่งเน้นการให้บริการข้อมูลที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้
คุณจะสามารถรักษาอันดับของเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google ได้อย่างยั่งยืนและไม่เสี่ยงต่อการถูกลงโทษในอนาคต
การแก้ไขปัญหาของเว็บไซต์ที่โดนลงโทษจากการทำ SEO ที่ผิดกฎหมายเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความอดทน แต่การปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องและการเน้นการสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงตามหลักการ E-E-A-T (Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถฟื้นตัวและกลับมามีอันดับที่ดีในผลการค้นหาของ Google ได้ในที่สุด